- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
22 มิ.ย. 2558
สมัยที่ชาวจีนเริ่มอารยธรรมที่ลุ่มแม่น้ำฮวงโหนั้น เป็นสมัยที่ศาสนายังไม่ชัดเจน มีลัทธิต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นจึงต้องอาศัยการสังเกตธรรมชาติตามคำที่กล่าวว่า “ฟ้าดินเข้าข้างใคร” ในวันที่รวบรวมหัวเมือง 800 หัวเมือง เกิดเหตุมหัศจรรย์อันมีนกชาดเป็นนิมิต จนในกาลเวลาผ่านไป ราชวงศ์ซางก็ถูกล้มล้างได้เป็นผลสำเร็จ จากนิมิตนั้นจึงถือกันว่าราชวงศ์โจวที่ตั้งขึ้นมาใหม่อยู่ในอำนาจของธาตุไฟ หลังจากนั้นราชวงศ์โจวยังคงใช้ระบบการปกครองเหมือนเดิม ด้วยการส่งขุนศึกหรือราชโอรส ไปปกครองตามหัวเมืองต่าง ๆ
การที่ราชวงศ์โจวสามารถปกครองได้ยาวนานถึง 800 ปี ก็มาจากการเสี่ยงทายของเจียงไท่กง (เมื่อครั้งเจียงไท่กงเข้ารับราชการนั้นก็มีอายุมากแล้ว มีการเสี่ยงทายโดยขึ้นรถและให้โจวเหวินหวางลากรถนั้นไป เมื่อลากไปได้ 800 ก้าวจึงหยุด ก็มีคำทำนายว่าราชวงศ์นั้นจะยืนยาวได้ถึง 800 ปี) ในทางฮวงจุ้ยแสดงไว้ว่า ได้มีการวางยุคจากดาว 9 ยุค หรือดาวเหนือ ว่ายุคใดประตูเมืองควรจะหันหน้าไปทางทิศใด อย่างไรก็ดี การตั้งประตูในยุคนั้นมีอายุ 800 ปีจึงสิ้นสุดยุค เป็นอันว่าราชวงศ์โจวก็สามารถสถาปนาขึ้นได้ตามหลักวิชาการวางประตูเมืองแบบดาว 9 ยุค
ในช่วงปลายราชวงศ์โจว ขุนศึกต่างๆ เริ่มตั้งตัวเป็นใหญ่คือ อ๋อง แต่ละอ๋องก็จะมีขุนศึกของตัวเอง เข้าตีแคว้นเล็กแคว้นน้อย รวมรวมเข้ามาอยู่ในอำนาจของตน เพื่อให้แคว้นของตนเข้มแข็ง ในขณะนั้น มีรัฐเกิดขึ้นทั้งหมด 6 รัฐ อันประกอบด้วยรัฐฉิน รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐจิ้น รัฐหาน รัฐเว่ย ในยุคราชวงศ์โจว 6 รัฐชิงความเป็นใหญ่ จนเข้าสู่ยุคชุนชิว มีสงครามยาวนานถึง 200 ปีก่อนที่ราชวงศ์โจวจะล่มสลาย ในตอนนั้น มีปราชญ์ต่าง ๆ นำความหมายของห้าธาตุมาตีความ หาที่ปรึกษาเพื่อพยายามจะนำหลักของห้าธาตุนั้นมาล้มล้างราชวงศ์โจว เหมือนดังที่ราชวงศ์โจวใช้หลักนี้ล้มล้างราชวงศ์ซางมาก่อน
มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า มาถึงยุคชุนชิว สงครามกลางเมืองต่างๆ มีผู้นำเอาวิชาหยินหยางนี้ เริ่มมาสร้างเป็นหลักวิชาการว่าด้วยการก่อกำเนิดของสรรพสิ่งในโลก มีการประสมประสานกันระหว่างคู่ทั้งหมด มีมืด-สว่าง นิ่ม-แข็ง เลว-ดี น้ำกับไม้ถือเป็นธาตุหยิน ไฟทองเป็นธาตุหยาง ดินเป็นธาตุที่ผสมผสานของทั้งสองธาตุ ให้เกิดความกลมกลืนและกลมเกลียว
ธาตุทั้งห้านี้สามารถจะส่งเสริม และทำลายซึ่งกันและกัน เกิดเป็นทฤษฎีขึ้น เช่น ไม้ก่อกำเนิดไฟ ไฟก่อกำเนิดดิน ดินก่อกำเนิดทอง ทองก่อกำเนิดน้ำ น้ำก่อกำเนิดไม้ หากธาตุนั้นไม่สมดุลกัน ธาตุไม้ก็อาจสูญสิ้นได้เพราะธาตุไฟ ไฟก็อาจดับได้เพราะดิน หรือดินมากเกินไปก็สามารถกลบทอง หรือธาตุดินอาจจะให้กำเนิดธาตุทองจนธาตุของตัวเองสูญสิ้น ทองนั้นให้กำเนิดน้ำ ถ้ามากเกินไปก็ข่มน้ำ น้อยเกินไปก็สูญสิ้น ธาตุน้ำนั้นให้กำเนิดไม้ น้ำมากเกินไปก็ข่มไม้ น้ำน้อยเกินไปก็สูญสิ้นเพราะไม้
ในขณะเดียวกัน ไม้ทำลายดิน ดินควบคุมน้ำเหมือนเขื่อน แต่ถ้าน้ำมากก็สามารถทำลายเขื่อนได้ น้ำทำลายไฟ ไฟข่มธาตุทองและสามารถหลอมทอง ทองทำลายไม้เหมือนมีดสับเขียงหรือเลื่อยตัดไม้ หลักวิชาเหล่านี้ได้มาจากการสังเกตธรรมชาติ สามารถนำมาอ่านทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ และยังสามารถนำมาใช้ในหลักการพยากรณ์ เลือกที่ฝังศพ ใช้ในทางการแพทย์ ใช้ในการกำหนดทำเลที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับตัวบุคคล แล้วแต่วันเดือนปียามของบุคคล ธาตุทั้งห้ายังได้นำมาอธิบายหลักของขงจื๊อด้วย