- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
22 พ.ค. 2556
"สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 6ฉีหวนกง กับเสนาบดีคนสำคัญ"
ออกอากาศทาง TNN2 (Truevision 8) ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 19.55 - 20.00 น.
ในประวัติศาสตร์ของชนชาติจีน จะมีชนต่างชาติเข้ามาปกครองอยู่สองราชวงศ์ด้วยกัน ก็คือ ในสมัยราชวงศ์หยวนที่เป็นชาวมองโกล กับราชวงศ์ชิงที่เป็นชาวแมนจู แต่ก่อนหน้านั้นประเทศจีนก็ถูกรุกรานอยู่บ่อยๆ
จีนจะเรียกว่าเขตจงหยวน โดยจะมีมลฑลเหอหนานเป็นจุดกึ่งกลาง ฃึ่งเป็นที่ตั้งของเสี่ยวลิ้มยี่หรือวัดเส้าหลินนั่นเอง
จีนถูกรุกรานทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ โดยพวกซุงหนู ส่วนทางด้านทางทิศเหนือไปจนจรดตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะมีกลุ่มของมองโกล กับแมนจู ฃึ่งเป็นเผ่าที่มีอำนาจมากที่สุด
เมื่อชาติใดต้องการจะเข้ามารุกรานเมืองจีน เขาจะต้องศึกษาประวัติศาสตร์ หรือความเป็นไปของชนชาติจีนนับตั้งแต่แรกเริ่มทีเดียว ดังนั้น ใน 2-3 ตอนที่ผ่านมา ก็เลยเกริ่นเรื่องราวของประเทศจีน เมื่อ 3,000-4,000 ปีมาแล้ว ว่ามีกำเนิดมาอย่างไร
จีนกำเนิดมาจากชนเผ่าเร่ร่อน กำเนิดมาจากการต่อสู้ กำเนิดมาท่ามกลางอุทกภัย หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชนชาติจีนมีรากฐานของการเกษตร มีการพัฒนาในเรื่องของการชลประทาน พัฒนาในเรื่องคน บุคลากร พัฒนาในเรื่องของความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัยให้กินดีอยู่ดี มีเรื่องของการเลือกทำเลด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมีความละเอียดในการดำเนินชีวิต มีความคิดในเรื่องของธรรมชาติอย่างลึกซึ้งทีเดียว
สมัยราชวงศ์เซี่ยซางโจว เป็นสมัยที่เริ่มมีนักปราชญ์ เริ่มมีความคิดหลายอย่าง โดยสังเกตจากธรรมชาติ ท้องฟ้า ดิน หรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นธรรมชาตินั้นมีผลต่อการดำเนินชีวิตทั้งสิ้น จึงเกิดเทพเจ้าต่างๆ ขึ้นมา
ในขณะที่นักคิดกับนักปรัชญากลับมองหาหนทาง ที่จะแก้ไขให้มนุษย์กับธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
ในขณะเดียวกันเมื่อสามารถตั้งตัวได้ด้วยเลือดของนักสู้ ก็ทำให้ไม่สามารถที่จะอยู่กันได้ อย่างเช่น ราชวงศ์โจว เมื่อแบ่งให้อำนาจกับเจ้าผู้ครองรัฐต่างๆ ซึ่งเดิมเป็นเชื้อพระวงศ์หรือเป็นพระญาติ หลังจากนั้น ก็จะมีการแก่งแย่งชิงดี ชิงอำนาจกันในหมู่มุขอำมาตย์ต่างๆ ซึ่งในช่วงระหว่างราชวงศ์โจวไล่เรียงมาจนถึงอีกยุคหนึ่ง สมัยนี้เรียกว่า เลียดก๊ก ก่อนที่จะเข้าชุนชิว คือเป็นยุคเจ้าผู้ครองรัฐต่างๆ ซึ่งต่างก็หาที่ปรึกษาต่างๆ
ในยุคนี้ ที่บอกว่าประเทศจีนเจริญด้วยนักปรัชญาเมธีต่างๆ เจริญด้วยสำนักต่างๆ ในขณะเดียวกัน ก็มีนักบริหารมีชื่อหลายๆ คนทีเดียว ที่น่าจะศึกษาชีวิตและก็เอา
แบบอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่จะเอ่ยถึงคือ ก้วนจ้ง
ดังที่กล่าวมาแล้วว่า รัฐที่มีความเข้มแข็งก่อนที่จะบดบังรัศมีของราชวงศ์โจว ก็คือ รัฐฉี (齐)โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ว่า ฉีหวนกง (齐桓公)
ในยุคเลียดก๊ก หรือกำลังเข้าสู่ยุคชุนชิว (春秋) เป็นยุคที่เราจำยากที่สุดเพราะว่ามีถึง 7-8 รัฐด้วยกัน แล้วก็มีชื่อฉีหวนกง ฉิวหวนกง จิ้นบุ้งกง เราก็เลยงง ตอนนี้เราจำชื่อ ฉีหวนกง ไว้ก่อน
แต่เสนาบดีที่เราควรรู้จักก็คือก้วนจ้ง (管仲)
ก้วนจ้ง ในตอนเด็กๆ ยากจนมากแต่ว่ามีเพื่อนดี ก็คือ เป่าซูหยา จริงแล้วเขาเป็นคนที่เอาเปรียบเนื่องจากเขาจน เขาก็บอกตรงๆ ว่าเขาจน แต่เป่าซูหยาเข้าใจเพื่อนดี แล้วก็รู้ด้วยว่าก้วนจ้งเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวมาก จึงแนะนำให้กับรัชทายาทที่มีนามว่า เซียวไป่ บอกว่าก้วนจ้งคนนี้เลี้ยงให้ดี เพราะเป็นคนที่มีความฉลาดและสามารถทำให้รัฐฉีมีความเข้มแข็งต่อมา ซึ่งก็เป็นจริง
ก้วนจ้งก็ยังคงรักษานโยบายหลัก ในการพัฒนาด้านการเกษตร พัฒนากองทัพ เก็บเงินเข้าท้องพระคลัง ระงับสงคราม การระงับสงครามก็ต้องมีวิธี เพราะว่าการทำงานกับกษัตริย์ไม่ใช่ง่ายๆ เมื่อกษัตริย์อยากทำสงคราม ก้วนจ้งก็บอกว่าคลังต้องพร้อมก่อน พอพัฒนาจนคลังพร้อม เรียกว่าอาหารการกินสมบูรณ์ อาวุธสมบูรณ์ มีวิธีการต่างๆนาๆ ในการสะสมกำลังพลเรียบร้อย พอต้องการจะทำศึกสงคราม ก้วนจ้งก็แนะอีกว่า อย่าทำเลยในเมื่อตอนนี้มีอำนาจหมดทุกอย่างแล้ว ใครๆ ก็รู้จักแล้ว จะไปทำสงครามทำไม สงครามก็ถูกระงับไป
นี่คือความชาญฉลาด การพูดจาแนะนำอะไรก็แล้วแต่ให้กับผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า คงจะต้องมีสติมีปัญญา และมีวิธีการ
ชมรายการย้อนหลังได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=JFLGlQovgsY