หลังจากฮั่นโกโจวสวรรคต ความวุ่นวายในราชสำนักเกิดขึ้นโดยหลี่ฮองเฮา ทั้งศึกนอกศึกในเกิดขึ้นพร้อมกัน ศึกใน ก็คือ ความขัดแย้ง การประหารอำมาตย์ที่อยู่ฝ่ายหลิวปังหรือฮั่นโกโจว คือ เฉาซิ่น อู๋กว่าง ถูกประหารหมด ทั้งมีการแต่งตั้งโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่เป็นโอรสผู้อ่อนแอ หลี่ฮองเฮาจึงสถาปนาตัวเองเป็นหลี่ไทเฮา ขึ้นว่าราชการทำให้เกิดความวุ่นวายในราชสำนัก ในขณะเดียวกัน ก็ต้องแต่งตั้งแม่ทัพออกไปรบกับซุงหนู แต่ตอนนั้นก็ยังไม่สถาปนาองค์หญิงองค์ใดขึ้นมา จนกระทั่งหลี่ฮองเฮาสวรรคต เมื่ออายุ 62ปี รัชทายาทมีนามว่า หลิวเหอ ขึ้นเป็นกษัตริย์พระนามว่า ฮั่นฮุ่ยตี้ ก็เป็นกษัตริย์อ่อนแอเช่นกัน จนถึงรัชสมัยของ ฮั่นเหวินตี้ ถึงจะมีการส่งหญิงงามออกไปแต่งงานเพื่อระงับศึกสงคราม ถือเป็นธรรมเนียมนับตั้งแต่บัดนั้น

ความจริงต้องนับตั้งแต่ปฐมกษัตริย์ สมัยฮั่นโกโจวเลยทีเดียว เพราะว่าหวังเจาจวินไม่ใช่คนแรกที่ถูกส่งตัวไป เรื่องราวของ หวังเจาจวิน ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้งหลายหน เพราะเป็นเรื่องเศร้าของสตรีคนหนึ่ง ที่เดินทางไปสู่แดนไกลและทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เพราะการศึกระหว่างฮั่นกับซุงหนูระงับไปถึงสองชั่วคนเลยทีเดียว เพราะเมื่อข่านหรือ  "ฮั่นหูเสีย" ได้สวรรคตไปแล้ว ตามธรรมเนียมของซุงหนู ผู้เป็นลูกจะรับทุกสิ่งทุกอย่างของบิดามาหมด หวังเจาจวินก็ทำหนังสือส่งเข้าราชสำนัก ว่าจะขอกลับ ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับ ให้อยู่ต่อไป เพราะว่าฮั่นยังไม่พร้อมที่จะทำศึกสงคราม นางก็เลยต้องจำใจต้องแต่งงานกับลูก พูดง่ายๆก็คือแต่งกับลูกเลี้ยง การเสียสละในครั้งนั้นทำให้ศึกสงครามระงับไปยาวนานสองชั่วอายุคนเลยทีเดียว