- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
2 ม.ค. 2557
สรุปบทความจากรายการ
"สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 51 บุคคลสำคัญรอบกายหลิวปัง"
ออกอากาศทาง TNN2 Truevision ช่อง 8ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 20.20 - 20.30น.
ในสงครามฉู่-ฮั่นมีบุคคลสำคัญหลายคน โดยเฉพาะฝ่ายหลิวปังดังที่กล่าวมาแล้วคือ จางเหลียง (张良) เซียวเหอ (萧何) หานซิ่น (韩信) หรือแม้กระทั่งหลี่ฮองเฮาในเวลาต่อมา
ที่เราจะเอ่ยถึงก็คือประวัติของ 4ท่านนี้ ซึ่งคงอยากทราบว่าแต่ละท่านเป็นใครมาจากไหน ศึกษาจากสำนักใด อยู่ในปราชญ์ 100สำนักด้วยหรือไม่
จางเหลียง หรือ เตียวเหลียง ผู้นี้ศึกษามาจากหุบเขาปีศาจ เป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย ศิษย์รุ่นแรกที่เรารู้จักกันแล้วก็คือ ซุนปิง ผางเจวียน เพราะฉะนั้น ถ้าเราศึกษายุคประวัติศาสตร์ อย่างยุคชุนชิว หรือจ้านกว๊อ เราจะรู้จักความโด่งดังของหุบเขาปีศาจที่ผลิตศิษย์ที่มีความสามารถออกมา ฉะนั้นเราก็จะทราบประวัติของจางเหลียงไว้เพียงเท่านี้ว่าศึกษาในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นตำราพิชัยสงคราม การดูคนหรือการวางแผนการต่างๆ จัดเป็นผู้ที่มีความฉลาดอย่างยิ่ง
เซี่ยวเหอ ตามประวัติไม่ได้เป็นศิษย์สำนักใด แต่เนื่องจากรับราชการเป็นถึงนายอำเภอที่มีความเฉลียวฉลาด มีความสามารถในการจัดการ จัดระเบียบ ส่วนใหญ่แล้วคนที่รับราชการทหารจะมีระเบียบวินัยอยู่แล้ว ดังนั้น ถือว่าเป็นเลิศในการจัดระเบียบกองทัพ มีการแบ่งเสบียง วางแผนล่วงหน้า ถ้าเป็นในรูปแบบบริษัทก็คือ จัดซื้อจัดจ้าง บริหารบุคคล แอดมินภายในนั่นเอง เซี่ยวเหอจัดเป็นคนที่มีความสามารถสูงในการจัดการทีเดียว
หลี่ฮองมาจากตระกูลผู้ใหญ่บ้านแซ่หลี่ เป็นคนสวยปานกลาง แต่เป็นผู้หญิงที่มีความฉลาด มีความเด็ดขาด เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังในทุกเรื่องของหลิวปัง แม้กระทั่งมีเกร็ดเล่าว่า ในครั้งหนึ่ง หลิวปังเดินทัพไปพบกับงูตัวใหญ่ที่ทำอันตรายกับคนในกองทัพของตน จะด้วยความกล้าหาญหรือกลัวก็ไม่ทราบ หลิวปังสามารถฆ่างูขาวตัวนั้นได้ การที่ระหว่างเดินทัพมีงูมาขวางทาง มีการต่อสู้กับงู จะเป็นลางที่ดีร้ายประการใด ก็ได้หลี่ฮองเฮาผู้นี้เองที่เป็นคนบอกว่า ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านต้องชนะศึกแน่นอน งูขาวก็เปรียบเสมือนเซียงอวี่ ด้วยยุคนั้นใครก็สามารถเป็นใหญ่ได้ จึงเกิดการชิงอำนาจแย่งความเป็นใหญ่กัน หลิวปังกับเซียงอวี่เป็นคู่ที่เข้มแข็งที่สุดที่ต้องชิงความเป็นใหญ่ หลี่ฮองเฮายังแนะอีกว่า เมื่อเขายกธงรบเป็นธงมังกรขาว เราก็ยกธงรบเป็นมังกรแดงก็แล้วกัน ถือว่าเป็นการพิฆาตกันด้วยธาตุไฟไปข่มธาตุทอง เป็นการใช้เรื่องธาตุมาข่มกัน ฉะนั้น งูขาวก็เปรียบเสมือนเซี่ยงอวี่ ถือว่าเป็นการรบชนะ และก็เป็นที่มาของยกธงสีแดงเป็นมังกรแดง เป็นการเลือกธงซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของกองทัพมาข่มกัน เป็นการตัดไม้ข่มนามที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว และสิ่งที่ได้มาก็คือ ขวัญกำลังใจของทหารที่มีแต่ชาวบ้านกับชาวนา ซึ่งแม้มีกำลังน้อยกว่าก็สามารถรบชนะได้ แม้ภายใต้การรบชนะนั้นจะมีผลัดกันแพ้ชนะบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจของนักรบทุกคนที่จะต่อสู้ต่อไปเพื่อชัยชนะในที่สุด