- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
9 ก.ย. 2556
สรุปบทความจากรายการ
"สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 37 จ้าวจี เมิ่งเจียหนี่ หญิงงามยุคจิ๋นซี"
ออกอากาศทาง TNN2 Truevision ช่อง 8 ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 20.20 - 20.30 น.
สาระจากเมืองมังกรตอนนี้จะกล่าวถึงสตรีผู้มีความงาม 2 คน ในสมัยของจิ๋นซี คนแรกเป็นพระมารดาของจิ๋นซีหรืออิงเจิ้นในวัยเด็ก คือ จ้าวจี และ อีกคนหนึ่งคือ เมิ่งเจียหนี (孟姜女) หญิงชาวบ้านแต่จะหญิงงามหรือเปล่าเราไม่ทราบ ประวัติศาสตร์ในยุคของจิ๋นซี บันทึกเรื่องราวของสตรีสองคนนี้ โดยเฉพาะจ้าวจี ระบุไว้ว่าเป็นนางรำที่งดงามมาก อยู่ในบ้านของหลี่ปู้เหว่ย สวยงามขนาดที่เจ้ารัชทายาทในอนาคต คือองค์ชายจื๋อฉู่ นั้นถึงกับตะลึงเลยทีเดียว ในครั้งที่รับคำเชิญของหลี่ปู้เหว่ยไปที่บ้าน ในการต้อนรับที่มีทั้งสุรา มีการขับกล่อม ร่ายรำ และได้พบเห็นความงามของจ้าวจีในตอนนั้น
ต่อมาจ้าวจี (昏德公) ก็มีตำแหน่งเปรียบเสมือนหนึ่งพระพันปีหลวงเลยทีเดียว แต่ว่าเนื่องจากจ้าวจีคุ้นเคยสนุกสนานกับการร้องรำทำเพลงท่ามกลางผู้คน พูดง่ายๆ คืออยู่ท่ามกลางสังคม จึงรู้สึกอึดอัดเมื่อถูกเก็บตัวอยู่ฝ่ายใน ส่งผลให้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต ก็คือ คบหาสมาคมกับขันทีปลอม คือ เล่าไอ่ (嫪毐) ที่หลี่ปู้เหว่ยส่งเข้ามาอยู่ในวังโดยไม่ได้ตอน จนกระทั่งตั้งท้องซึ่งเป็นที่อับอายของจิ๋นซีฮ่องเต้มาก ดังนั้น จุดจบของจ้าวจีจึงไม่งดงาม แต่ก็ยังถือว่าเป็นหญิงงามที่มีวาสนาสูงส่งคนหนึ่ง ไต่เต้าจากที่ต่ำมามีวาสนาสูงแล้วก็ลงสู่ที่ต่ำในที่สุด เรื่องราวในตอนนี้เป็นเพียงแค่เนื้อหาที่จะทำให้เรื่องราวของจิ๋นซีสนุกสนานขึ้นในภาพยนตร์ แต่สำหรับในประวัติศาสตร์แล้วถือเป็นเรื่องเศร้าทีเดียว สำหรับชีวิตของสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งมีชีวิตอยู่กับการร้องรำทำเพลง สนุกสนานอยู่ในสังคม แล้วเมื่อมีโอกาสเป็นพระพันปีหลวง ก็คงยากอยู่ในการปรับตัวให้เข้ากับสังคมอย่างนั้น
ส่วนเรื่องราวของเมิ่งเจียหนี่ สันนิษฐานว่า ในเวลานั้นจะบันทึกเพื่อเป็นการตำหนิกษัตริย์ของตัวเองก็เป็นการไม่สมควร เพราะการสร้างกำแพงเมืองจีนก็เป็นไปเพื่อป้องกันการรุกรานของพวกซุงหนู (匈奴) ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้ว ในการศึกจะมีทั้งพ่ายแพ้ แล้วชนะแล้วพ่ายแพ้สลับกันอยู่อย่างนั้น แต่ก็เรียกได้ว่าถูกรุกรานมาโดยตลอด การสร้างกำแพงเมืองจีนทำได้ไม่ยาก คือ รื้อกำแพงทั้งหมดยกเว้นตอนเหนือและก็สร้างต่อกัน แต่กระนั้นก็ยาวมากที่สุดในขณะนี้ เราคงเคยไปเดินเล่นบนกำแพงเมืองจีนกันมาบ้างแล้ว จัดเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ สร้างกันมานับพันปี พ.ศ.ประมาณ 300 เดี๋ยวนี้ก็ 2500 กว่าๆ นั่นเท่ากับว่าอยู่มาให้เราได้เห็นประมาณ 2000 กว่าปี
การก่อสร้างกำแพงนี้ ทำให้ต้องเกณฑ์ผู้คนเป็นจำนวนมาก เป็นที่เดือดร้อนเหล่าอาณาประชาราษฏร์ จนทำให้ได้รับสมญานามว่า เป็นทรราช บังเอิญที่ 1 ในจำนวนล้านๆ คนที่ถูกเกณฑ์ไปสร้างกำแพง เป็นสามีของเมิ่งเจียหนี แม้ในภาพยนตร์จะผูกเรื่องว่าเมิ่งเจียหนี๋เป็นหญิงงามที่เมื่อจิ๋นซีเห็นก็หลงรัก แต่ในความเป็นจริง เป็นการแสดงสภาพสังคมสมัยนั้นว่า การสร้างกำแพงที่ยิ่งใหญ่นั้น ได้พลัดพรากสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกัน และคงมีอีกหลายคู่ที่มีการพลัดพรากเช่นนี้ สำหรับเรื่องของเมิ่งเจียหนีถูกพลัดพรากจากกันและสามีก็มาตาย และศพถูกฝังไว้ที่กำแพง
ในเรื่องนี้มีเรื่องเล่าแต่จริงเท็จอย่างไรไม่แน่ชัด แต่ประวัติศาสตร์ก็บันทึกเอาไว้ว่านางร้องไห้จนกำแพงพัง เพราะว่า เมื่อตายลงไปแล้วจะเอากระดูกไปไว้ไหน ก็ทุบป่นรวมไปกับกำแพง เพราะว่าคนตายเป็นจำนวนมากจะไปฝังก็ลำบาก ผู้คุมทั้งหลายก็แสดงความใจดีหรือใจร้ายก็ยังไม่แน่ใจ คือ ฝังไปกับกำแพงเสียเลย การสร้างที่มีส่วนผสมเช่นนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำแพงทะลายลงด้วย ลม แดด ฝน พายุ ก่อนหน้านี้ แต่บทสรุป บันทึกไว้ว่าเมิ่งเจียหนีร้องไห้จนกำแพงพัง กลายเป็นเรื่องเล่าลือขับขานจนกลายเป็นประวัติศาสตร์ในเวลาต่อมา
ชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=iF7ABFeBORs