ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

ธาตุกับดวงดาว
30 ก.ย. 2560

 

ธาตุเป็นปกรณ์อันลึกซึ้งของครูโหรโบราณ ดาวแต่ละดวงมีธาตุประจำ มีการจับคู่ธาตุ ดังนี้

     •  (๑) กับ (๗) - คู่ธาตุไฟ

     •  (๒) กับ (๕) - คู่ธาตุดิน

     •  (๓) กับ (๘) - คู่ธาตุลม

     •  (๔) กับ (๖) - คู่ธาตุน้ำ

 

นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องบอกว่าดาวดวงไหนเป็นมิตร หรือเป็นศัตรูกัน อย่าง "ธาตุที่เป็นมิตรกัน" เช่น น้ำกับดิน ไฟกับลม ส่วน "ธาตุที่เป็นศัตรูกัน" คือ น้ำกับไฟ ดินกับลม เมื่อธาตุดินกับธาตุน้ำเป็นมิตรกัน เพราะฉะนั้นดาวจันทร์กับดาวพฤหัส ซึ่งเป็นคู่ธาตุดิน จะเป็นมิตรกับดาวพุธหรือดาวศุกร์ด้วย  อาทิตย์และเสาร์ เป็นมิตรกับราหูกับอังคาร ซึ่งเป็นคู่ธาตุไฟก็เป็นมิตรกับคู่ธาตุลม ดาวคู่มิตร หมายถึงดาวที่เกื้อกูลกัน

 

เมื่อสถิตอยู่ในราศีของตน เรียกว่าอสีติธาตุ เช่น จันทร์ พฤหัส ไปสถิตอยู่ที่ราศีมังกร พฤษภ กันย์ จะให้คุณกับเจ้าชะตาทุกชะตา หรือถ้า จันทร์หรือพฤหัส ไปสถิตในราศีที่มีดาวเกษตร พุธ หรือศุกร์ ถือว่าให้คุณเหมือนกัน แต่ถ้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุอันเป็นศัตรู การให้คุณก็ย่อมเบาบางไป หรืออาจจะให้โทษกับเจ้าชะตาก็ได้ อย่างเช่นจันทร์กับพฤหัส คู่ธาตุดิน เป็นศัตรูกับลม ถ้าไปอยู่ในราศีกุมภ์ อาจจะให้โทษเกี่ยวกับที่ดิน เพราะว่าดินถูกลมพัดไป

 

อาทิตย์กับเสาร์ คู่ธาตุไฟ เป็นอริกับธาตุน้ำ ไปอยู่ในราศีกรกฎ น้ำจะต้องดับไฟ คุณวิเศษบางประการของเราอาจจะสูญหายไป ทำให้เรากลายเป็นคนเฉื่อยช้า เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่าจันทร์พฤหัสเป็นมิตรกับพุธหรือศุกร์ อาทิตย์กับเสาร์เป็นมิตรกับราหูหรืออังคาร พุธกับศุกร์จะเป็นศัตรูกับเสาร์และอาทิตย์ จันทร์กับพฤหัสจะเป็นศัตรูกับอังคารและราหู

 

ดาวคู่ศัตรู มีความหมายว่าต้องทำลายซึ่งกันและกัน เวลาโคจรไปสถิตอยู่ในราศีเดียวกัน อาจจะเบียดเบียนกัน ต้องทะเลาะกัน เกิดการทำลายซึ่งกันและกัน ใครจะแพ้ชนะอยู่ที่ดาวพระเคราะห์ดวงไหนจะสถิตอยู่ในธาตุที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน หรืออยู่ในตำแหน่งที่ใหญ่กว่ากัน เช่น ถ้าศุกร์กับเสาร์อยู่ร่วมกันที่ราศีกรกฎ แสดงว่าศุกร์มีกำลังมากกว่า และเป็นราชาโชค จะกลายเป็นว่าความฟุ่มเฟือยชนะความหนักแน่นเอาจริงเอาจัง เวลาทะเลาะกับใครจะเอาแต่ใจตัวเอง

 

ราศีเมษ สิงห์ ธนู ดาวเสาร์จะชนะ เป็นใหญ่กว่าดาวศุกร์ เพราะธาตุไฟเป็นอสีติธาตุของดาวเสาร์ เรียกว่าความเป็นอสีติธาตุของดาวเสาร์ ไปอยู่ในราศีธาตุไฟ ไม่มีดาวพระเคราะห์ใดลบล้างได้เลย ดาวเสาร์จะเป็นใหญ่ค่อนข้างมาก ถึงแม้อยู่ราศีเมษ จะเป็นราศีที่เป็นนิจก็ตาม อาจหมายถึงการทำอะไรที่ใหญ่โต แต่เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่สามารถยืดยาวนานไปได้ แต่ถ้าไปอยู่ร่วมกับดาวศุกร์ที่ราศีเมษ ความเป็นเสาร์จะชนะกว่า คนๆ นั้นจะไม่มีความสุขให้เห็นเลย สมมุติถ้าได้แต่งงานจะมีลักษณะที่เรียกว่า ภรรยาแทบไม่ได้เห็นหน้าของสามีเลย

 

ถ้าดาวศุกร์และเสาร์ ร่วมราศีในราศีธาตุน้ำหรือดิน เสาร์จะพ่ายแพ้ต่ออิทธิพลของดาวศุกร์ เพราะธาตุน้ำเป็นธาตุของดาวศุกร์ เมื่อดาวศุกร์ใหญ่กว่าดาวเสาร์ โทษทุกข์ก็เบาบางลง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดาวศุกร์ หมายความว่าดาวศุกร์จะรักสวยรักงาม แต่จะเป็นคนไม่ติดดิน ถ้าคนที่มีลักษณะนิสัยของดาวศุกร์ไปอยู่ท่ามกลางคนที่เป็นดาวเสาร์ คนๆ นั้นจะอยู่ไม่ได้ จะเลิกร้างกัน ขัดผัวขัดเมียขัดเงิน เพราะฉะนั้นเมื่อดาวศุกร์โดดเด่นเกินดาวเสาร์ จะต้องไม่พยายามนำตัวไปอยู่ท่ามกลางของดาวเสาร์ ขณะเดียวกันคนที่มีดาวเสาร์โดดเด่น ต้องไม่พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางของดาวศุกร์ จะต้องผิดหวัง

 

ธาตุต่าง ๆ จะมีธาตุอยู่ (๔) ชั้นด้วยกัน คือ ไฟ ดิน ลม และน้ำ ธาตุของราศีและธาตุของดาวเคราะห์ผสมกัน จะมีปกรณ์ทำนายอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน ธาตุชั้นที่ (๑) คือ อสีติธาตุ ได้แก่ (๑) กับ (๗) คู่ธาตุไฟอยู่ในราศีเมษ สิงห์ และธนู (๒) กับ (๕) คู่ธาตุดินอยู่ในราศีมังกร พฤษภ กันย์  (๓) กับ (๘) คู่ธาตุลม อยู่ในราศีเมถุน ตุลย์ กุมภ์  และ (๔) กับ (๖) อยู่ในราศีธาตุน้ำ กรกฏ พิจิก มีน ธาตุชั้นที่ (๒) คือ คู่มิตร ลมกับไฟ (๓) กับ (๘) ไปอยู่ราศีธาตุไฟ เมษ สิงห์ และธนู หรือคู่ธาตุน้ำเป็นมิตรกับดิน (๔) กับ (๖) ไปอยู่ที่ราศีกันย์ มังกร และพฤษภ ถือว่าเป็นธาตุที่ให้คุณกับดวงชะตาเป็นอันดับ (๒) รองจากอสีติธาตุ หรือว่า (๑) กับ (๗) คู่ธาตุไฟต้องไปอยู่กับลมในราศีเมถุน ตุลย์ และกุมภ์ ถือว่าให้คุณกับเจ้าชะตาเช่นเดียวกัน อย่างธาตุชั้นที่ (๓) ไฟกับดิน ถือว่าเป็นกลางต่อกัน ให้คุณกับเจ้าชะตา