ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

อาชีพดาวเสาร์ ตอนที่ ๑
19 ส.ค. 2560

 

ดาวเสาร์(Titan) เราจัดให้เป็นประธานของดาวบาปเคราะห์ จึงมีความยิ่งใหญ่ ดูหนัก ทำให้ทุกคนกลัวดาวเสาร์ ไม่ว่าจะเป็นเสาร์เล็ง เสาร์ทับ เสาร์แทรก ดาวเสาร์สถิตอยู่ในแต่ละราศี ประมาณ ๒ - ๒ ปีครึ่ง แล้วแต่ว่าจะเดินพักร์ เดินเร็ว เดินช้ามากน้อยแค่ไหน บางครั้งยังเดินถอยหน้าถอยหลัง ข้ามราศีไปมาเหมือนรถบดถนน บางคนถึงกับกล่าวว่า เสาร์มาทีไรเหมือนกับมาทิ้งรอยแค้น รอยเจ็บ ไว้ให้เป็นที่ระลึก และจะต้องเกี่ยวพันกับทุกราศีไม่มากก็น้อย

 

ดาวเสาร์ (๗) ไม่ใช่แต่จะให้โทษด้านเดียว ยังให้คุณแก่บางคน ซึ่งบางครั้งก็ให้โทษก่อน บางครั้งก็ให้คุณก่อน แต่สรุปได้ว่า ดาวเสาร์มาทีไรต้องเข้าตำรา "เจ็บแล้วต้องจำ" ไม่ค่อยออกมาในรูปของบุญของกุศลนัก เพราะฉะนั้นจึงถูกขนานนามว่าเป็น "ประธานของฝ่ายบาปเคราะห์" ในขณะที่ดาวพฤหัสเป็น "ประธานฝ่ายศุภเคราะห์" แถมยังกล่าวได้อีกว่าดาว ๕ เป็นบุญ แล้วดาว ๗ เป็นบาป

 

ดาว ๗ เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่รองจากดาว ๕ และถือว่าเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวบาปเคราะห์ ในสมัยโบราณจะเพ่งเล็งดาวดวงนี้เป็นพิเศษ เพราะเมื่อเวลาให้โทษ ก็จะให้โทษอย่างมหันต์มากกว่าดาวทุกดวง

 

อำนาจและอิทธิพลของดาวเสาร์ ทำให้เกิดความเฉื่อยชา ทุกข์ทรมาน คิดมาก หรือจะเป็นตัวผลักดันให้ตัวเราออกจากสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขสมบูรณ์ หมายถึงบุคคลที่ไปทำตัวเป็นดาวเสาร์ หรือเจ้าทุกข์ ทั้งๆ ที่กำลังมีความสุข จึงถูกดีดตัวออกมาจากสภาพแวดล้อมที่เป็นสุข เพราะเหตุที่เราไปทำตัวแบบดาวเสาร์นั่นเอง

 

บางครั้ง ดาวเสาร์ก่อให้เกิดความผิดหวัง อุปสรรค ความเชื่องช้า ความอดทน การรอคอย หรือแม้กระทั่งความหวาดระแวง รวมไปถึงการพลัดพรากจากกันอีกด้วย

 

สำหรับการแก้ไขนั้น ดาวเสาร์โดยทั่วไป ทำหน้าที่เหมือนเป็นหน่วยขัดขวาง คอยถ่วงความเจริญ สร้างความวิบัติให้โทษเกิดทุกข์ คติตามโหราศาสตร์ไทยมักถือว่าดาวเสาร์นั้นให้โทษมากกว่า ซึ่งให้คุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในทางโหราศาสตร์สากลกลับถือว่า แม้ดาวเสาร์ให้โทษมหันต์ แต่ก็ให้คุณอนันต์เช่นกัน อันเป็นหลักของธรรมชาติ เพราะได้มีการทำปูมจดบันทึกแล้ว สรุปออกมาได้ว่า ดาวเสาร์ให้โทษก็จริงแต่ก็ให้คุณ มีผลทั้งสองด้าน ตรงนี้เองที่เกิดเป็นช่องว่าง ให้เรานำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางพิชัยสงคราม เพื่อเป็นการแก้ไข

 

ดาวเสาร์เมื่อเข้ามาในชีวิตของใครก็ตาม มักจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ ขึ้นในชีวิต ทิ้งร่องรอยแห่งความทรงจำไว้เสมอ ส่งผลดีก่อนหลังไม่เท่ากัน จึงขนานนามว่า ดาวเสาร์เป็นทุกขลาภ เราจึงมักได้ยินอยู่เสมอๆ ว่า ถ้าจะทายทุกข์ทายโทษให้ทายเสาร์ เช่นในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ดาวเสาร์เดินเข้าทับลัคนาดวงเมืองที่ราศีเมษ ประเทศเราก็ประสบปัญหาค่าเงินบาทลอยตัว เศรษฐกิจฟองสบู่แตก เสมือนเป็นการฝากบทเรียนเอาไว้ให้

 

ในด้านของบุคคล หากเราไม่ทำตัวให้ไปเข้า หรือพยายามทำตัวให้เป็นดาวเสาร์ แต่ให้เป็นดาวเสาร์ในทางที่ดีที่ให้คุณ เมื่อได้รับผลกระทบหนักๆ ใหญ่ๆ ไม่ว่าในเรื่องใด ผลกระทบเหล่านั้นจะลดน้อยลงไป

 

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับดาวเสาร์ จะหมายถึงการทำอะไรที่หนักๆ ต้องใช้ความอดทนสูง ต้องเผชิญเรื่องราวและผู้คนมาก เป็นอาชีพที่ต้องใช้แรงกาย ใช้ความอดทน บางครั้งต้องได้รับความทุกข์ทรมานอีกด้วย เช่น ทำไร่ ทำนา ทำสวน กรรมกร ช่างปั้นหม้อ ช่างก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน ช่างทำท่อที่ต้องมุดท่อลงไปทำงาน เป็นงานที่หยาบกว่างานช่างทั่วไป หรือช่างที่ทำอิฐทำปูน อาชีพเลี้ยงสัตว์ สัปเหร่อ ขายวัสดุก่อสร้าง หัวหน้าคุมคนงาน ผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับดินทุกชนิด ตักหน้าดินขาย รับถมที่ดิน ค้าที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ขายฝากที่ดิน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน เรือนจำ เจ้าหน้าที่ในคุก หรือแม้แต่ผู้ที่ถูกต้องโทษ ถูกจองจำ

 

ในบางครั้งนักพรตผู้ปฏิบัติ เราก็จัดให้อยู่ในประเภทของดาวเสาร์ด้วยเช่นกัน เพราะดาวเสาร์มีความหมายถึง ตบะ การบำเพ็ญตบะ ฉะนั้น นักบวช นักพรต พระธุดงค์ ที่ต้องมีการบำเพ็ญตบะ ที่ต้องมีความอดทนค่อนข้างสูง จึงถูกจัดให้มาอยู่ในดาวเสาร์ ไม่ใช่ดาวพฤหัส ดาวเสาร์มักจะมีนิสัยที่เก็บตัว ขรึม เพราะฉะนั้นจึงจัดรวมประเภท อดอยาก ยากไร้ ขอทาน รวมอยู่ในดาวเสาร์ด้วยเช่นกัน

 

ฉะนั้น บุคคลที่มีบุคลิกลักษณะเป็นดาวเสาร์ โครงกระดูกจะใหญ่ เพราะเกิดมาเพื่อรองรับอาชีพอย่างนี้โดยเฉพาะ หากสงสัยว่าเรานั้นควรมีอาชีพอะไรที่เหมาะสม ลองพิจารณาดูรูปร่างของเรา หากว่าโครงกระดูกของเราใหญ่ ไม่ว่าเราจะเป็นคนตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ตาม หรือว่าเรามีลักษณะบึกบึน หรือว่ามีลักษณะเคร่งเครียด หรือว่าเป็นคนไม่มีเรื่องร้อนใดๆ แต่กลับดูเป็นคนที่มีแวววิตกกังวลอยู่ตลอด ใบหน้าออกเหลี่ยมๆตาลึก เดินช้า เหล่านี้เป็นลักษณะของดาวเสาร์ บางคนอาจจะผอมแต่ว่าตาลึก ลักษณะอย่างนี้จัดอยู่ในดาวเสาร์

 

โหราศาสตร์, ดาวอุจจ์ ดาวนิจ, ดาวเกษตร, ดาวประ, ราศี, มฤตยู, อาจารย์แอน, หมอช้าง