ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

อาชีพดาวมฤตยู - ตอนที่ ๑
29 ก.ค. 2560

 

ดาวมฤตยู ( ๐ )  เป็นดาวดวงสุดท้ายที่ทางโหราศาสตร์ไทยนำมาใช้ในการพยากรณ์ มีคำพยากรณ์ที่ใกล้เคียงกับดาวราหู (๘ ) มาก แต่จะไม่กล่าวถึงอาชีพที่เกี่ยวกับดาว ๘ เพราะดาวราหูเป็นเพียง “เงา หรือ คราส” ไม่ใช่ดาวเคราะห์

 

ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับดาวมฤตยูกันก่อน เพราะปูมพยากรณ์มีน้อยมาก ด้วยเหตุที่ดาวมฤตยูอยู่ไกลจากโลก อิทธิพลที่มาถึงโลกจะน้อย การเคลื่อนย้ายของดาว ๐ ต่อ ๑ ราศี ใช้เวลาถึง ๗ ปี

 

ตามปูมบันทึกโบราณตั้งแต่สมัยบาบิโลเนียนมาถึงกรีก และโหราศาสตร์ฮินดู ได้พูดถึงดาว ๐ ในลักษณะของเทพเจ้า โหราศาสตร์จีน พูดถึงดาว ๐ ว่า “หากเดินทาง ถ้าอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๐ ก็จะหมายถึงความตาย ความหายนะต่างๆ”

 

ในทางโหราศาสตร์สากล จะได้อิทธิพลมาจากทางด้านกรีก – โรมัน จะมองเห็นดาว ๐ ในด้านที่ค่อนข้างแปลกหน่อย แต่ก็มีส่วนคล้ายกับดาว ๘ แต่ก็ไม่มากนัก เพราะเอาอิทธิพลของดาว ๘ ไปใส่รวมกับดาว ๐ แต่ในทางโหราศาสตร์ไทยซึ่งมาจากโหราศาสตร์ฮินดู มีความหมายที่ซับซ้อนมากกว่านั้น โดยเอาเรื่องของธาตุ เรื่องของเทพเจ้า มาผสม และมีผลไปถึงคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๐ และจดเป็นปูมบันทึกเอาไว้ต่อๆกันมา

 

โดยสรุปแล้ว เมื่อเรามีการศึกษาอย่างกว้างขวาง สามารถนำมาผสมผสานระหว่างหลักทางสากล คือกรีก – โรมัน กับฮินดู การทำนายก็จะออกมาละเอียดและแม่นยำขึ้น

 

วิชาโหราศาสตร์ กับ วิชาหมอดู ไม่เหมือนกัน เพราะว่าวิชาหมอดู คือวิชาที่นำตัวเลขมาจับเป็นกล “กลของดวงดาว” คือการเอาดวงดาวมาเปรียบเทียบกับตัวเลข แล้วก็นำตัวเลขนั้นมาจับเป็นกล เช่น กลของเลข ๗ ตัว ไพ่ป๊อก หรือแม้กระทั่งการใช้ทักษาเพียงอย่างเดียว อัฐกาล การจับยาม ล้วนเป็นกลของดวงดาว ถือเป็นวิชาหมอดู ซึ่งวิชาหมอดูจะประกอบไปด้วยการใช้สถิติ จิตวิทยา ฯลฯ เรียกว่าเป็นกลของดวงดาว กลทางตัวเลข

 

แต่ที่กำลังอธิบายอยู่นี้ เป็นวิชาโหราศาสตร์ กับ ดาราศาสตร์ (โหระ โหรา คือความโชติช่วงของดวงดาว) คือศึกษาวิชาทางเดินของดวงดาว ที่มีอิทธิพลต่อโลกมนุษย์ทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านความเป็นอยู่ บางครั้งเป็นเรื่องของกรรมที่บอกว่า คนเราเมื่อเกิดอยู่ภายใต้นักษัตรที่ดี กระแสของดวงดาวก็จะพาไปสู่สิ่งที่ดีๆ อันนี้คือ “บุญ และ กรรม นำมา” พูดถึงอิทธิพลของดวงดาวต่างๆ ที่ตรึงกันเป็นระบบ เช่น ระบบสุริยะ คือเวลาไปไหนก็จะไปกันทั้งระบบ แล้วเราก็อยู่ในระบบอันนั้น ก็จะได้รับอิทธิพลด้วย เพราะฉะนั้นการศึกษาโหราศาสตร์และดาราศาสตร์จึงควบคู่กันไป

 

โหรโบราณบางท่านถึงกับพูดเอาไว้ว่า คนที่ศึกษาวิชาหมอดู แล้วเรียกตัวเองว่าโหร อาจจะมีวิชาแล้วมักจะเสื่อมลง ลักษณะนี้เราจะต้องระวังว่าเราศึกษาวิชาหมอดู หรือเราศึกษาวิชาโหราศาสตร์ แล้วขณะที่เราทำนายนั้น เราเป็นโหรหรือเราเป็นหมอดู ต้องแยกแยะ ถ้าเป็นหมอดู จะขึ้นชื่อว่าเป็น “อาจารย์ หรือ โหราจารย์” ไม่ได้ เพราะว่า “โหร” สามารถที่จะสอน บอกเหตุและผล ที่มาที่ไปได้ เป็นการจดปูมบันทึก จะไม่มีการ“เดา” เพราะเป็นการอ่านวิถีของดวงดาวอย่างมีหลัก

 

ในวงการวิชาโหราศาสตร์ จะมีการศึกษาแลกเปลี่ยนเหมือนกับศาสตร์อื่นๆ โหรแต่ละท่านจะให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เพราะว่าจะมีหลักของโหรอยู่ จึงไม่ใช่กลที่เราคิดขึ้นมาเอง หรือเป็นกลของดวงดาวที่หลายๆ คน อาจจะคิดขึ้นมาเป็นกล แล้วลองทำนายดู แม่นยำได้ผลก็เอาไปใช้ อันนี้เรียกว่า “กล หรือ ลูกเล่นของโหร” เพราะฉะนั้น วิชาหมอดูในบางครั้งจึงเป็นลูกเล่นของโหร หรือบางท่านบัญญัติขึ้นเองแล้วถ่ายทอด ถึงจะได้ชื่อว่าเป็น “ครู” คือบัญญัติขึ้นมาเอง แล้วก็สอนเขา จึงเรียกว่าเป็น”วิชาหมอดู”

 

ดาว ๐ ในหลักของโหราศาสตร์ จะมีอิทธิพลโน้มไปทางที่ทันสมัย การเปลี่ยนแปลง การปฏิวัติ การประดิษฐ์ การสร้างสรรค์ การค้นคว้าให้ได้มา ในเรื่องแปลกใหม่ เป็นลักษณะของการสร้างสรรค์ศิลปะวิทยา ทำให้มีการคิดในระบบใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับความเจริญของบ้านเมือง

 

เพราะฉะนั้น ในแต่ละครั้งที่ดาว ๐ มีการยกหรือย้ายราศี เรามักจะเห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ รวมถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันด้วย ทั้งดีและไม่ดี การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน หรือการล้มเลิกความคิดเก่าๆ มายึดถือความคิดใหม่ เป็นการใช้อำนาจ ใช้ความคิดรุนแรง และการตัดสินใจที่เด็ดขาด ความศรัทธาที่แรงกล้า ความมุ่งหวังต้องการอิสรภาพ และดาว ๐ ยังเกี่ยวพันกันเรื่องการเมืองอีกด้วย

 

เพราะฉะนั้นดาว ๐ จะมีความหมายที่ค่อนข้างใหญ่โต มีการเปลี่ยนแปลงไปถึงระบบความคิด การผลิตคิดค้นอะไรใหม่ๆ โครงการใหญ่ๆ ก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๐ เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังหมายถึง การพลันคิดได้ การหมุนเวียน การเปลี่ยนแปลงต่างๆ หรือการอยู่ในที่โล่ง หรือการผสมผสาน เช่นตลาดนัด หรือแม้แต่การผสมผสานทางวัฒนธรรมก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๐ การกระจายออกไปเติบโตยังที่ต่างๆ การเปลี่ยนแปลงสถานที่ การโยกย้ายถิ่นฐาน(แต่ต้องเป็นในลักษณะของการข้ามน้ำข้ามทะเล) การเปลี่ยนแปลง ปฏิวัติจากสิ่งเก่าๆ ไปสู่สิ่งใหม่ๆ ความคิดเดิมๆ ก็จะถูกละทิ้งไป หรือแม้แต่คำว่า “ล้ำนำสมัย นวัตกรรมใหม่ๆ อินโนเวชั่น” ก็คือดาว ๐

 

เพราะฉะนั้น ดาว ๐ ก็จะหมายถึง บุคคลที่นักประดิษฐ์ นักค้นคว้า นักปกครองที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบ การบริหารที่มีการเปลี่ยนแปลง ที่ปรึกษาระดับผู้บริหารระดับสูง หรือว่าการคิดสร้างสรรค์อะไรขึ้นมา นักจิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักไสยศาสตร์ และชาวโหราศาสตร์ทั้งหลาย นักมายากล เพราะว่าในปูมบันทึกโบราณ ดาว ๐ มีอะไรที่คล้ายๆ กับดาวราหูด้วย แต่ก็มีอะไรที่สร้างสรรค์ เป็นตัวเป็นตน จับต้องได้มากกว่าดาว ๘ เพราะฉะนั้น มายากลจึงจัดอยู่ในดาว ๐ เพราะยังจับต้องได้ แต่ภาพมายาหรือราหูนั้น จับต้องไม่ได้