การดำเนินชีวิตของเรา โดยนำหลัก ๓ ประสานมาใช้พิจารณา

     - ฟ้าประทาน คือดวงชะตาของแต่ละบุคคลทำมาอย่างไร

     - ดินบันดาล คือสภาพแวดล้อมหรือสถานที่ประกอบการ หรืออาชีพที่เราทำอยู่ ถูกกับเราหรือว่าตรงจริตของเราหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย

     - ประสานบุคคล คือเป็นที่ตัวของเราเอง

ถ้าองค์ประกอบทั้งสามอย่างนี้ถึงกัน จึงพอจะบอกได้ว่า หน้าที่การงานของเรานั้นจะเป็นเช่นไรในปีต่อไป

โดยทั่วไป หากเราต้องการดูความเป็นไปของชีวิตเป็นรายเดือน เราจะดูที่ดาว ๑, ๔ และดาว ๖ ถ้าดูรายวันจะดูกันที่ดาว ๒ ถ้าเป็นรายปีจะดูที่ดาว ๕ ระยะยาวจะดูที่ดาว ๗, ๘, ๐

มาศึกษาเรื่องดาว ๕ กัน

ดาว ๕ จะหมายถึงอาชีพที่เกี่ยวกับศาสนา กฎหมาย การรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม ครูบาอาจารย์ การค้าขายที่เกี่ยวกับสังฆภัณฑ์ ทนายความ นายแพทย์ นายธนาคาร นายทุน ผู้บริหารระดับสูง พ่อค้าใหญ่(ผู้เป็นเจ้าของกิจการหรือเถ้าแก่) เจ้าของโรงมหรสพ หรือผู้ที่ทำเกี่ยวกับสวนสัก สวนเกษตร นักสังคมสงเคราะห์ หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการหล่อพระ สร้างพระ

เกี่ยวกับสถานที่ ดาว ๕ จะเกี่ยวกับ วัดวาอาราม โบสถ์วิหาร สำนักสงฆ์ โรงพิมพ์ ร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ หรือบางทีอาจหมายถึง โรงพยาบาลด้วย ศาล สถานีตำรวจ สำนักงานทนายความ กรมอัยการ (อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการออกกฏหมาย) แม้กระทั่งรัฐสภา สภาผู้แทนนิติบัญญัติ เกี่ยวกับการศึกษา มหาวิทยาลัย องค์กรการกุศลต่างๆ เหล่านี้ ถือว่าเป็นดาว ๕ ทั้งหมด

ถ้าดาว ๕ เดินไม่ปกติ บุคคลที่ทำหน้าที่การงานข้างต้น มักจะมีเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับคนภายใน วุ่นวายกันเอง มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ตัดแข่งตัดขา

ดาว ๕ ที่เป็นประ หมายถึง การที่ผู้น้อยยกตนข่มท่าน การถูกตรวจสอบ หรือเป็นไปในลักษณะ หางมังกรขึ้นมาระรานหัวมังกร บริวารทำให้เดือดร้อน

ในช่วงที่ดาว ๕ ไม่ดี ไม่ว่ากับลูกน้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตาม จงใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน การรู้จักขอขมา ให้อภัยซึ่งกันและกัน มีน้ำใจ จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

ในส่วนของ “ดินบันดาล” ตำแหน่งที่เกี่ยวกับอาชีพในบ้านของเรา ตำแหน่งแรกที่ให้ความสำคัญ คือประตูทางเข้าบ้าน ซ่อมแซมประตูให้ดี อย่าให้ทรุด อย่าให้พัง เพราะประตูเปรียบเหมือน “ปาก” คือหน้าตาของเรา เราผ่านเข้าบ้านไหน เราสามารถที่จะวัดบ้านนั้นได้จากประตูหน้าบ้าน คือถ้าหากว่าประตูผุพัง ดูแล้วแย่มากจริงๆ เราก็พอจะบอกได้ว่า บ้านนั้นเขาคงจะเหนื่อยลำบาก ต้องเผชิญอุปสรรค เพราะว่าขนาดหน้าบ้านยังไม่มีเวลาดูแลเลย แล้วในบ้านจะแค่ไหน

แต่ในหลักวิชาแล้ว “ประตู” คือทางแห่งการรับโชค แปลตรงๆ คือหมายถึง “อาชีพ” แม้กระทั่งประตูทางเข้าของบริษัทที่ทำงาน ให้ดูว่าเข้าซอกซอยหรือเข้าอย่างโอ่อ่าเปิดเผย หรือว่าประตูนั้นมีรอยแตกรอยร้าว ป้ายหลุด ชำรุด ต้องรีบซ่อมแซม อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะคือหน้าตาของเรา เป็นสิ่งที่ดูสดชื่น ชวนเชิญเราเข้าไป บางบริษัทประกอบกิจการการค้าเจริญรุ่งเรืองมาได้ ๒๐ ปีแล้ว แต่พอไปดูป้ายชื่อบริษัทดูสุดโทรม นั่นแสดงว่ากิจการทรุดโทรมหมดแล้ว อาชีพเริ่มไม่มั่นคงแล้ว

เพราะฉะนั้น อาชีพจะเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ ให้มองที่ประตูบ้านก่อน เราก็สามารถที่จะทำนายได้