ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

โหราศาสตร์แนะแนว ตอนที่ ๒๓ - ภพปุตตะ
14 พ.ค. 2560

 

ภพปุตตะ อันเป็นภพที่ ๕ นับจากลัคนา เป็นภพที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นภพที่ร่วมธาตุกับลัคนา จึงหมายถึง ผู้สืบสายโลหิต และอีกนัยหนึ่ง เป็นภพที่คอยช่วยเหลือค้ำจุนเจ้าชาตา หากใครมีบุตรเสีย หรือทำภพปุตตะเสียหาย ด้วยการไม่บำรุงตามแนวทางที่พุทธศาสนาสอนไว้ ก็หมายถึงการทิ้งภพที่อุปถัมภ์ค้ำจุนเจ้าชาตา ในชีวิตมักพบอุปสรรคลำบากไม่มีที่สิ้นสุด

 

ภพปุตตะ ยังมีความหมายแฝง ที่เกี่ยวพันกับความสุข ความพอใจ ความปิติเบิกบาน ความรัก การเสี่ยงโชค รวมทั้งเป็นภพบริวารที่ใกล้ชิดด้วย

 

การพิจารณาถึงยศถาบรรดาศักดิ์ ความฉลาดไหวพริบปฏิภาณ การเคร่งครัดต่อประเพณี ตลอดจนการดูดวงชาตาของพระสงฆ์ในเรื่องของการบวช ก็สามารถพิจารณาจากภพปุตตะด้วยเช่นกัน

 

บุคคลที่ไม่มีบุตร หากมีสัตว์เลี้ยงที่ตนรัก ให้การดูแลเหมือนบุตร เหมือนเป็นการสร้างภพปุตตะที่ดีในชาตา ทำให้ประสพกับความเจริญรุ่งเรือง ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำจุน ตลอดจนเข้าถึงความยิ่งใหญ่ของดวงชาตา เทียบเท่าคนที่มีภพปุตตะดีเช่นเดียวกัน

 

ดังนั้น ภพปุตตะ จึงเป็นภพที่มีความสำคัญกับทุกชาตาอย่างยิ่งยวด

 

ในภพปุตตะ ถ้ามีดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็น สี่ โหงว ลัก คือ ดาว ๔ ดาว ๕ และดาว ๖ หรือแม้แต่ดาวสามดวงนี้ ให้แสงถึงภพปุตตะ ในลักษณะโยค ตรีโกณ หรือเล็ง ก็ส่งผลให้ภพปุตตะของเจ้าชาตาเข้มแข็ง เป็นที่โปรดปรานของผู้ใหญ่ จะได้เป็นใหญ่ เป็นเจ้าคนนายคน

 

ตรงกันข้าม ถ้ามีดาวบาปเคราะห์สถิตอยู่ มักไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ไม่สนใจในการศึกษา บางครั้งขาดจิตสำนึกที่ดี ชอบลองของ อันเป็นเหตุให้พบกับความเดือดเนื้อร้อนใจอยู่เสมอๆ

 

อย่างนี้ต้องหมั่นประกอบกุศล เลี้ยงสัตว์ด้วย เป็นการแก้กัน ทั้งต้องหมั่นฝึกวิธีคิดให้นึกถึงใจเขาใจเรา และปฏิบัติอยู่ในสังคหวัตถุสี่ ก็จะแก้ไขให้ร้ายกลายเป็นเบา

 

บางครั้งการพิจารณาภพปุตตะ มักเอาภพปัตนิมาพิจารณาร่วมด้วย คือหากภพปุตตะ และภพปัตนิ มีดาวบาปเคราะห์สถิตหรือให้แสงถึง มักไม่มีคู่ครอง และไม่มีบุตร เป็นต้น

 

และถ้าดาวบาปเคราะห์อยู่ในภพที่ ๕ จากลัคนา โดยที่ดาวเกษตรเจ้าเรือนเป็นนิจ และไม่ได้รับแสงจากดาวศุภเคราะห์เลย จะไม่มีบุตร

 

มีวิธีดูอีกวิธีหนึ่ง คือดาว ๕ ถูกขนาบด้วยดาวบาปเคราะห์ และดาวเกษตรภพปุตตะไม่เข้มแข็ง หรือไม่ได้รับแสงจากศุภเคราะห์เลย ก็ไม่มีบุตรอีกเหมือนกัน

 

ดังนั้น ถ้าภพปุตตะ หรือดาวเจ้าเรือน และดาว ๕ ในดวงชาตา ได้รับกระแสจากดาวศุภเคราะห์ อย่างนี้มีบุตรแน่นอน

 

มีวิธีสังเกตว่าจะได้บุตรหญิงบุตรชาย โดยถ้าดาว ๕ และดาวเจ้าเรือนปุตตะ อยู่ในตำแหน่งอุจจ์ เกษตร วรโคตรนวางค์ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่เข้มแข็งในดวงชะตา และดาวเจ้าเรือนภพที่ ๙ หรือภพศุภะ ให้แสงถึงภพปุตตะ จะได้บุตรชาย แต่ถ้าไม่ได้รับกระแสสัมพันธ์จากภพที่เก้า มักได้บุตรหญิง

 

และถ้าดาว ๕ หรือเจ้าเรือนภพปุตตะ เข้มแข็งอยู่ในภพทุสถานะ และมีดาวศุภะให้แสงถึงภพปุตตะ จะได้บุตรหญิงที่เก่งกล้าสามารถ

 

ดาวเจ้าเรือนปุตตะ และดาว ๕ ต่างก็อยู่ในภพอริ มรณะ วินาศ เจ้าชะตาจะมีบุตรเลี้ยง หรือต้องดูแลทั้งคนและสัตว์เลี้ยงเป็นอันมาก