ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

ชื่อนั้นสำคัญไฉน ตอน 2
26 เม.ย. 2556

 

 

ชื่อนั้นสำคัญไฉน 2
 

ประสบการณ์อาจารย์แอน จากรายการวิทยุ 

ชื่อนั้นสำคัญไฉน...โดย อาจารย์ษณอนงค์ (อาจารย์แอน) คำแสนหวี
 

 

 

     เรื่องชื่อนั้นก็มีอะไรสำคัญอยู่  เช่น  ลูกเกิดมาตอนฟ้าฝ่า  ก็ต้องเรียกฟ้าไม่ใช่เรียกผ่า  เพราะว่าถ้าเรียกผ่า เด็กจะเป็นคนขวานผ่าซากตลอด   อย่างนี้ตั้งว่า ฟ้าลั่น ยังพอองอาจ

 

เรื่องอย่างนี้เราต้องสังเกตเอง ว่ามีผลเนื่องจากถูกเรียกบ่อยๆ  เหมือนคนโบราณเวลาเขาจะทำการเป็นมงคล เขาจะต้องมีคนชื่อ อิน จัน มั่น คง มาอยู่ด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล

 

เรื่องอิทธิพลของชื่อในตำราท่านอาจารย์พลูหลวง  เคยกล่าวไว้ว่า คนที่ชื่อนายเช้า ก็มักจะได้ทำงานตอนเช้า เรื่องนี้มีตัวอย่าง ถ้าใครหลายคนที่เคยไปถนนเส้นพรหมบุรี จะรู้จักร้านตราชู ถ้าไปทานอาหาร กุ้งอร่อยมากอยู่ริมแม่น้ำ  และก็มีอีกร้านหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาชื่อลุงเช้า ขายแบบเดียวกันเลย อยู่ติดกันเพียงนิดเดียว  ถ้าร้านตราชูนี้เต็ม ก็ไม่มีใครไปถึงร้านของลุงเช้า อาจารย์ถามลูกศิษย์ว่า ร้านลุงเช้าจะมีคนแน่นตอนไหน  ลูกศิษย์ตอบว่าตอนเช้า เพราะฉะนั้นก็เลยต้องขายอาหารเช้า  ทั้งๆ ที่แกอาจจะชื่อเช้าหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ตั้งชื่อร้านว่า เช้า 

 
 

สมมติว่ามีผู้หญิงชื่อ เอก  คำว่าเอกถ้าไม่รู้ความหมายก็เหมือนชื่อผู้ชาย  แต่ทางโหราศาสตร์ เอก คือดวงอาทิตย์  เลขหนึ่ง หมายถึงผู้ชาย  นิสัยเขาก็จะเหมือนผู้ชาย โดดเด่นทำอะไรออกหน้าก่อนเสมอ แต่ก็ต้องดูว่าเขาประกอบอาชีพอะไร  ถ้าแต่สมมติว่าประกอบอาชีพแอร์โฮสเตส ชื่อเอกก็จะสวยโดดเด่นเป็นเอก  แต่ถ้าชื่อท้ายก็คงจะต้องสวยอันดับท้ายๆ  เคยได้ยินว่าตั้งชื่อลูกคนสุดท้ายว่า ท้าย   พอมีอีกคนก็ตั้งชื่อว่า แถม    ปรากฏว่ายังมีต่ออีกคน ก็ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรก็ให้ชื่อว่า หมด  อันนี้เป็นไปตามเหตุการณ์    ชื่อต่างๆเหล่านี้บอกความเป็นไป

 

นอกจากนี้ เรื่องชื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอาชีพ และก็มีอิทธิพลมากในทัศนะของครูอาจารย์โหร ท่านอาจารย์พลูหลวง ได้ให้ข้อสังเกตว่า  จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม  ท่านมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับสงครามตลอด  จนกระทั่งมาสงครามหาบูรพา   

 

อย่างชื่อของดาราหลายๆ ท่านที่บางทีก็เปลี่ยนชื่อไปมา  ชื่อนั้นมีผลทำให้งานรุ่งขึ้นหรือว่าการแสดงน้อยลงนั้น  ในศาสตร์ของอาจารย์ จะใช้วิชาโหราศาสตร์และมีทักษาเป็นองค์ประกอบ ถ้าหากว่าชื่อของเขาไปพ้องกับคำว่าเสื่อมในดวงชะตาของเขา จะทำให้เป็นดาราไม่รุ่ง  ก็ต้องเปลี่ยนออกมา ให้ไปพ้องกับดวงดาวที่แปลว่าเจริญหรือรุ่งเรืองหรือมีชื่อเสียง

 

แต่ถ้าบางท่านชื่อเดิมก็เป็นที่รู้จักหรือว่ามีชื่อเสียงอยู่แล้ว  ถ้ามีพยัญชนะตัวหนึ่งที่ไม่ดี แต่ว่าชื่อปัจจุบันคนก็รู้จักทั่วประเทศอยู่แล้ว อย่างนั้นไม่ควรเปลี่ยน    

 

ได้กล่าวถึงชื่อคนไปแล้ว เรามาดูถึงการตั้งชื่อร้านค้าหรือบริษัทห้างร้านบ้าง  การที่เราจะตั้งชื่อร้านค้าบางครั้งคนส่วนใหญ่ก็มักจะบ่งบอกในตัวชื่ออยู่แล้วว่าประกอบอาชีพอะไร  ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่ลงท้ายว่า คอนสตรัคชั่น แล้วเปลี่ยนไปขายพวกเครื่องอุปโภคบริโภค พอเขาเปลี่ยนมาอย่างนั้นคนยังเข้าใจว่าเป็นคอนสตรัคชั่นอยู่ อุปโภคบริโภคก็ขายไม่ดี

 

สำหรับชื่อ บริษัท ชุนเทียน ถ้าเราตั้งชื่อบริษัทเป็นชื่อฤดูกาลหรือฤดูใบไม้ผลิ  แต่ถ้าเกิดว่าโลกมันหมุนไปฤดูกาลมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวันแต่ถ้าเราชื่อชุนเทียนมันก็จะเป็นชุนเทียนตลอดไป  แต่ถ้าชื่อว่า seasoning  สมมติว่าทำร้านอาหารก็เหมาะสม เพราะว่าลักษณะการขายอาหารต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปมา แต่ถ้าเอาชื่อไปทำกิจการที่ต้องนิ่งๆ หนักๆ ไม่เหมาะ  เช่น  seasoning   เอามาขายแทรกเตอร์ก็อาจจะไม่เหมาะ เพราะว่าอาจจะเดี๋ยวมาเดี๋ยวไป 

 

ถ้าเราตั้งชื่อว่าอะไร เราควรจะจัดทำเลให้สอดคล้องเหมือนกัน อย่างบอกว่าชื่อ ชุนเทียน ซึ่งแปลว่าฤดูใบไม้ผลิ ทั้งหมดก็จะต้องชุนเทียนไปตลอด  สมมติว่าบริษัทของเราชื่อชุนเทียน ปรากฏว่าใบไม้ในบริษัททุกใบร่วงหมด  ก็ขาดความร่มเย็น เหมือนชื่อความหมายของบริษัทไม่ปรากฏอยู่ที่นั้น ก็เหมือนบริษัทไม่มีตัวตนนั่นเอง

  

มีร้านขนมที่ฝรั่งขายช็อคโกแลตที่ประเทศนิวซีแลนด์และชื่อ Dead by chocolate  แต่ว่าคนไทยหรือว่าคนจีนเขาถือว่าไม่ควรจะตั้งชื่อมีคำว่าตาย  แต่ว่าร้านนี้เขาหมาย

ถึงว่าตายเพราะช็อคโกแลต คือกินช็อคโกแลตให้ตายไปเลย   หรือว่า Dead by caffeine  อันนี้มันก็คงไม่เหมาะกับประเทศไทย  หรือว่าคนจีนจะเข้าไปซื้อก็คงไม่  เช่น  ถ้าเกิดว่าเพื่อนเราไปซื้อเค้กแล้วเขียนเต็มหน้าเลยว่า Dead by chocolate   คนรับอาจจะหมายถึงว่าเอายาพิษมาให้ฉันหรือเปล่า  เราต้องเอาธรรมชาติของความรู้สึกของเราเข้าวัดในความรู้สึกที่อยู่รอบๆ ตัวเรา ซึ่งธรรมชาติอันนี้มันอาจจะเกิดจากกรรม  สภาพแวดล้อมทางวัตถุบุคคล  ศีลธรรมประเพณี  สิ่งเหล่านี้จะต้องมากำกับอยู่ในเรื่องของดวงชะตาคือ ฟ้าประทาน ในเรื่องของฮวงจุ้ย คือดินบันดาล ในเรื่องของธรรมคือ ประสานบุคคล มันเกี่ยวกัน

 

ถ้าร้านค้าของเราอยู่ในห้างหรือเป็นส่วนประกอบหรือเป็นแค่มุมๆ หนึ่งของบริษัท  เช่น  มีมุมกาแฟ  อย่างนี้ก็จำเป็นต้องมีชื่อเหมือนกัน  ถ้าองค์กรหรือสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ดี  แต่ว่าสภาพแวดล้อมภายใน ทั้ง ชื่อ  ทำเล  จังหวะ  โอกาสเป็นส่วนประกอบที่ดีหมด   ก็จะเป็นทำเลที่แยก คือมันโดดเป็นทำเลเฉพาะของเรา  เราก็จะไม่ได้รับกระแสความเป็นไปในบริษัทนั้น  เช่น  บริษัทของเขาทะเลาะกัน แต่ว่าร้านกาแฟของเราก็จะมีความสุข ขายดีได้  เหมือนกับครอบครัวหนึ่งพ่อแม่ลูก อาจจะไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนกัน  เช่น  พ่อแม่แสนจะลำบากแต่ว่าลูกสุขสบาย ก็เช่นเดียวกัน ห้างลำบากแต่ว่าเราอาจจะแสนสบายก็ได้   คือ  คนอาจจะไม่ได้มาซื้อของอย่างอื่นแต่ว่ามาทานกาแฟเราร้านเดียว  ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ ฝีมือ และทำเลทุกอย่าง  แต่ต้องจัดให้มีความละเอียดและระมัดระวัง

 

ถ้ากรณีชื่อร้านที่เป็นภาษาต่างชาติ  ซึ่งตอนนี้ร้านค้าจะคิดตั้งชื่อแนวสปา ชื่อออกแนวบาหลีและมีความไพเราะ  แต่ว่าความนิยมไม่ได้มีผลในเรื่องของโหราศาสตร์  ในโหราศาสตร์จัดว่า ชื่อต่างประเทศเป็นดาวมฤตยูทั้งหมด  คือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า  ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นที่เราตั้งชื่อภาษาต่างประเทศดาวมฤตยูอยู่ที่ไหน  อยู่ตำแหน่งใดแต่ก็ต้องดูคำแปลว่าสอดคล้องกับงานของเราหรือเปล่า  อย่างถ้าอยู่ทะเลแล้วไปตั้งชื่อว่าเขาสูงเนินสูงก็ไม่เหมาะ

 

ถ้าอย่างที่ชื่อเกี่ยวกับต้นไม้ ในร้านก็ต้องมีต้นไม้  ถ้าตั้งชื่อร้านกาแฟว่าเพื่อนก็ต้องมีเพื่อน  เช่น  เราติดรูปของเพื่อน  มีร้านอาหารร้านหนึ่งที่อาจารย์ชอบไป ซึ่งชื่อเกี่ยวกับน้ำและดิน  ซึ่งทำเลเขาก็ดีระยะหนึ่ง    และหลังไม่ได้อิงอะไรแต่เป็นสิ่งปลูกสร้างสูง  หน้ามีน้ำมีสระมีปลา  มีหงส์  มีกระต่าย  มี  3 วงที่โอบร้านอันนี้ไว้ วงน้ำ วงที่จอดรถ และวงถนน ร้านนี้ก็ดึงดูดดี

 

มีอีกร้านที่เป็นร้านสเต็ก อาหารเขาก็มีฝีมือดีแต่ไม่ค่อยมีคน  แต่ว่าชื่อร้านเขาแปลความหมายว่า ซี่โครงหั่นเป็นชิ้นๆ  อันนี้คือต้องดูทำเล 

 

มีอยู่ร้านหนึ่งขายสเต๊กสตูไก่-เนื้อ แต่ว่าอยู่ติดกับสัตวแพทย์ เรายังไม่ค่อยกล้าเข้าเลย ไม่รู้ว่าข้างๆ ผ่าตัดแล้วออกมาเป็นอาหารหรือเปล่า  คือ  ร้านหนึ่งเป็นรักษา อีกร้านเป็นกิน คือมันค้านกันอย่างนี้คือมีผล มันต้องดูทำเล  ดูองค์ประกอบดูร้านข้างๆ  มีที่จอดรถขนาดไหน  ร้านเราหลบมุมไหม  ป้ายเราเป็นอย่างไร  และร้านของเรามีอะไรที่ดึงดูด มีอะไรที่โดดเด่น ถ้าไปอยู่ตรงมุมแล้วอยู่ท่ามกลางร้านทั้งหมด อะไรเป็นที่โดดเด่นและอยู่ในสถานที่ที่ร้านเป็นที่ต้องการไหม  บ้านแถวนั้นอาจจะมีสัตว์เลี้ยงก็ต้องการสัตวแพทย์  แต่ก็ต้องดูว่าร้านข้างๆ มีร้านสเต๊กสตูไหมไม่ใช่ว่าไปตั้งร้านคู่กันเลย

 

ส่วนชื่อร้านที่มีชื่อมาจากสัตว์ประหลาดน่ากลัว เช่น  อนูบิส  ต้องถามว่าคนรู้จักมากกว่าคนไม่รู้จักหรือเปล่า ถ้ารู้จักแค่ว่าเป็นสุนัขก็ไม่ได้มีผลอะไร  แต่ถ้าคนทั้งหมดรู้หมดเลยว่าอนูบิสเป็นอะไรอันนี้มีผล  อยู่ที่ความรู้สึกของคนว่าเรารับอะไร อย่างเราตั้งชื่อ อนาคอนด้า  เราไม่เข้า คนที่ 2-100 ก็ไม่เข้า ร้านเราว่างเปล่า อันนี้แสดงว่ามันมีผลแล้ว  บางคนก็แปลก ตั้งชื่อร้านว่าเป็นที่รวมเหมือนกระทะทองแดงเหมือนอเวจี  มันจะมีสักกี่คนที่อยากจะไปดูอเวจี ก็มีร้านที่ตั้งชื่อแบบนี้เหมือนกัน 

 

สรุปแล้ว   ควรจำเป็นกฏง่ายว่า ยุคสมัยนี้การตั้งชื่อห้างร้านบริษัทต่างๆ ควรมีความหมายตรงๆ  ความหมายถ้าจะทำอาชีพอะไรก็ให้ต่อด้วยตัวนั้นเลยไม่ว่าจะภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยคือเป็นยุคของการตั้งชื่อตรง  ให้รู้เลยว่าทำอะไร

 

อันที่สองควรจะเลือกชื่อที่รู้ประวัติความเป็นมาว่าเป็นอย่างไร เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน  อันที่สามถ้าเป็นธุรกิจของตัวเอง ถ้าเป็นธุรกิจที่อ่อน เราก็ตั้งชื่อที่มันอ่อนๆ  ดอกไม้ดอกไร่อะไรก็ว่ากันไป  แต่ถ้าเป็นธุรกิจฮาร์ดแวร์เราก็ต้องใช้ชื่อที่หนักแน่นมั่นคงหรือว่าโลโก้อะไรก็แล้วแต่ มันขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไร  นี่คือหลักง่ายๆ มันจะได้ไม่เสียหายอะไร 

 

      และถ้าบริษัทมีโลโก้  โลโก้กับชื่อก็ต้องสอดคล้องกัน  เช่น  ชื่อ บริษัท ชุนเทียน ชื่อบริษัทเป็นฤดูใบไม้ผลิและโลโก้ต้องมีความหมายถึงฤดูใบไม้ผลิ ห้ามเป็นใบไม้ร่วงหล่น เป็นต้น

 

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
  • ชื่อนั้นสำคัญไฉน ตอน 1