- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
1 ก.พ. 2554
อองมั่ง ราชันย์สมัยฮั่น
ขึ้นชื่อเรื่องทุกคนคงจะส่ายหน้า ราชาองค์นี้มาจากวรรณคดีเรื่องใดไม่เคยได้ยิน ความจริงต้องบอกว่ามาจากพงศาวดารจีน ซึ่งเป็นเรื่องจริงมีตัวบุคคลจริง ๆ เช่นเดียวกับมังตราหรือจะเด็ด หรือตัวละครหลาย ๆ คนที่เคยเอ่ยนามมา
เรื่องราวของอองมั่ง มีความน่าสนใจเพราะตลอดระยะเวลากว่าสี่ร้อยปีของราชวงศ์ฮั่น ได้แบ่งออกเป็นสองช่วง คือช่วงแรกเรียกว่าสมัยฮั่นตะวันตก คือช่วงระหว่าพ.ศ. ๕๓๗ - ๕๕๑ มีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น ๑๑ พระองค์ ตั้งราชธานีอยู่ที่เมืองฉางอัน ระยะที่ ๒ เรียกว่า ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก คือช่วงพ.ศ. ๕๖๗ - ๗๖๓ มีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น ๑๒ พระองค์ ตั้งราชธานีอยู่ที่ลั่วหยาง และกษัตริย์องค์สุดท้ายคือ พระเจ้าเหี้ยนเต้ ในเรื่องสามก๊กนั่นเอง
ส่วนช่วง พ.ศ. ๕๕๑ - ๕๖๗ ที่ขาดหายไป ก็คือช่วงที่อองมั่ง ยึดอำนาจจากราชวงศ์ฮั่น และสถาปนาราชวงศ์ซินปกครองจีนอยู่ ๑๖ ปี แต่หลังจากนั้นราชวงศ์ฮั่นก็สามารถยึดอำนาจกลับคืนมาได้ การที่จู่ ๆ ก็มีราชวงศ์หนึ่งที่มีฮ่องเต้เพียงองค์เดียวครองราชย์ราชถึง ๑๖ ปี ได้นั้น ก็มีข้อน่าสนใจอยู่ ๒ ประการ
ประการแรก คือ มาได้อย่างไร
ประการที่สอง คือ ไปได้อย่างไร
อองมั่งเกิดเมื่อ ๔๕ ปี ก่อนคริสตศักราช ในสมัยพระจักรพรรดิ ฮั่นหวูตี้ และตายเมื่อพ.ศ. ๕๖๖ เขาเกิดมาในตระกูลขุนนาง ญาติของเขานับได้สามชั่วคนล้วนแล้วแต่เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในราชสำนัก และมีป้านามว่า “อองเจิ้นจิน” เป็นถึงมเหสีของจักรพรรดิฮั่วหวูตี้ แต่ครอบครัวของอองมั่งเองกลับยากจน เพราะบิดามีอายุสั้น
และนี่คือ ดวงประเทียบของ อองมั่ง
โปรดสังเกตดวงประเทียบ บุคคลที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง และตามประวัติได้เป็นถึงจักรพรรดิ จะต้องมีดวงชาตาที่ค่อนข้างแรง อย่างน้อยต้องมีอุดมเกณฑ์และในจำนวนเกณฑ์ทั้งหมดปัศวะเกณฑ์เป็นเกณฑ์ที่ส่งผลในการเป็นผู้นำคนมากที่สุด
ประวัติของอองมั่ง แสดงถึงความเฉลียวฉลาดทันคน ลึกซึ้งเจ้าแผนการสามารถกุมชาตาของบุคคลต่างๆ ได้ในภายภาคหน้า จึงจัดลัคนาอยู่ที่ราศีเมษ
ปัศวะเกณฑ์ คือการที่มีดวงดาวอยู่ในภพที่ ๑๐ ข้าพเจ้าจึงจัดชุมนุมดาว ถึง ๕ ดวง ในราศีมังกร รวมทั้งดาว ๑ และดาว ๗ คู่อสีตีธาตุด้วย เพราะดาวคู่ธาตุไฟ ในราศีธาตุดิน มีจุดด้อยคือทำให้กำพร้าบิดา และในที่สุดก็ไร้ผู้สืบทอด เพราะดาว ๑ มาจากภพปุตตะ อย่างไรก็สู้กำลังดาว ๗ ไม่ได้ เพราะ ๗ เป็นเกษตร และอยู่ในภพกัมมะ ซึ่งเป็นภพแห่งกรรมด้วย
ตามประวัติ อองมั่ง เป็นคนทะเยอทะยาน เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ล้วนแล้วแต่มีเกียรติยศชื่อเสียงทั้งสิ้น และมีความตั้งใจมาแต่เยาว์วัยว่าตนนั้นต้องมีวาสนาสูงสุดในแผ่นดิน อองมั่งสนใจที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์คัมภีร์จริยธรรมต่าง ๆ และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองว่า การจะให้เป็นที่รักแก่บุคคลทั้งหลาย หรือให้คนทั้งหลายเมตตาเอ็นดู หรือสนับสนุนตนต้องเป็นคนมีจริยธรรม มีคุณธรรม
อองมั่งมีดาว ๙ อยู่ภพวินาศ แสดงถึงความลำบากอดทนต่อสู้ของตนเองมาแต่กำเนิด ดาว ๙ มีความหมายในเรื่องของการวางแผน หรือจินตนาการที่สลับซับซ้อน มองการณ์ไกลกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจ
มีดาว ๕ เล็ง ตามหลักของตันตริก คือการทายดาวที่อยู่ตรงกันข้าม หมายความว่าดาว ๕ ที่เล็งลัคน์อยู่ส่งกระแส ดาว ๙ มากุมลัคน์นั่นเอง ดังนั้นอิทธิพลของดาว ๙ จึงมีต่ออองมั่งมากกว่าที่เราคิด
อองมั่งทำตนเป็นคนสมถะ มักน้อยสันโดษ มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ยกตนข่มท่าน ปรนนิบัติมารดา พี่สะใภ้ที่เป็นม่ายเป็นอย่างดี จนชาวบ้านสรรเสริญว่าเป็นบุคคลที่มีความกตัญญู มีความอ่อนน้อมน้อมถ่อมตน เชื่อฟังเคารพต่อผู้เป็นลุง เป็นอา ซึ่งเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่อยู่ในวัง มีมารยาทต่อผู้น้อยผู้ต่ำต้อยกว่าตน และยังคบหากัลยาณมิตรผู้มีชื่อเสียงทางด้านจริยธรรม หรือบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน
นี่เป็นอิทธิพลของดาว ๒ ที่มีตำแหน่งเป็นอุจและยังเป็นดาวศูนย์พาหะ แสดงบุคลิกภายนอกของเจ้าชาตา ความดีของอองมั่ง ส่งผลให้ได้รับการสนับสนุนเข้ารับราชการ ตำแหน่งนายทหาร องครักษ์ได้ทั้งบรรดาศักดิ์มีตำแหน่งราชการ และได้ไต่เต้าขึ้นไปตามลำดับ
เล่ากันว่าอองมั่ง ลงโทษลูกชายโดยสั่งให้ฆ่าตัวตาย ชดใช้ชีวิตของข้าทาสที่ลูกชายทำให้ตายโดยความประมาท แสดงถึงความยุติธรรมรักความถูกต้องยิ่งกว่าชีวิตลูก นี่ก็เป็นอิทธิพลของดาว ๑ จากภพปุตตะที่ถูกข่มด้วยดาว ๗
ความดีของอองมั่ง เพียรสร้างส่งผลให้รับตำแหน่งยศศักดิ์เลื่อนสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดได้รับบรรดาศักดิ์สูงสุดคือ “อันฮั่นกง” ซึ่งเทียบเท่ากับสมเด็จเจ้าพระยา และมีตำแหน่งในราชการเป็นถึงสมุหนายกควบตำแหน่งสมุหกลาโหม กุมอำนาจทั้งการเมืองและการทหาร
นี่แหละข้าพเจ้าใส่ดวงดาวชุมนุมอยู่ที่ราศีมังกร ไม่ใช่เพราะขี้เกียจกระจายดาวออกไปตามราศีต่าง ๆ นะคะ ตามประวัติศาสตร์ อองมั่งมีการวางแผนอย่างแยบยลในการกำจัดผู้ที่ขัดขวางทาง เสมือนหนังจีนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่แสดงถึงความแยบยลของอองมั่ง คือพระเจ้าฮั่นผิงตี้ ครองราชย์เมื่อพระชนม์มายุ ๙ พรรษา อองมั่งก็พยายามกีดกันไม่ให้พระราชชนนีมาดูแลใกล้ชิด ด้วยเกรงอิทธิพลของพระราชชนนีมาข่มตนเอง สร้างความไม่พอใจให้พระเจ้าฮั่นผิงตี้ เพราะทรงทราบว่าทรงเป็นจักรพรรดิแต่เพียงในนาม
อองมั่งก็ทราบดีว่าตนเป็นที่หวาดระแวงขององค์จักรพรรดิมาตลอด ในที่สุดก็วางยาพิษจนพระเจ้าฮั่นผิงตี้สิ้นพระชนม์ ภายหลังจักรพรรดิฮั่นผิงตี้สิ้นพระชนม์ ปรากฏการณ์ก็ได้เกิดนิมิตขึ้นในแผ่นดิน เช่นมีการขุดพบแผ่นหินขาวสลักตัวหนังสือว่า “สวรรค์ส่งอองมั่งมาเป็นจักรพรรดิ” มีการพบหีบทองเหลืองในศาลเจ้าฮั่นโกโจ ภายในหีบมีหนังสือจารึกว่า “ฮั่นโกโจปฐมบรมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น สละบัลลังก์แก่อองมั่ง”
นี่เป็นอิทธิพลของดาว ๓ จากภพมรณะมาอยู่ในภพอริมีตำแหน่งเป็นมหาจักร มีความหมายของการวางแผนร้ายและการสนับสนุน ภพกัมมะเป็นภพองค์เกณฑ์ในลักษณะที่ดาว ๓ ตรีโกณถึง คือสนับสนุนภพกัมมะนั่นเอง อองมั่งครองราชย์ได้ ๑๖ ปี หลิวซิ่วผู้เป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่นก็เข้ายึดอำนาจคืนได้สำเร็จ จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองลั่วหยาง เป็นการเริ่มยุคฮั่นตะวันออก
ดวงประทีปของอองมั่งที่เขียนไว้ ไม่มีดาวโยคและตรีโกณ เหมือนดวงที่ปราศจากการสนับสนุนหรือแผ่กิ่งก้านสาขาหรือหยั่งราก เป็นดวงที่มีลัคนาเกือบโดด มีเพียงดาวขนาบหน้าหลังแสดงถึงการมีผู้ช่วยเหลือโอบอุ้มระยะหนึ่งเท่านั้นขาดดาวรับช่วงต่อ มีเพียงดาวที่เป็นปัศวะเกณฑ์กลุ่มใหญ่ ที่แสดงอำนาจอันสูงสุดเท่านั้น
ดาว ๕ เล็ง ๐ แสดงถึงอัจฉริยภาพทางปัญญา และการวางแผนของอองมั่ง แต่วงจรชีวิตที่กำพร้าบิดาและการสูญเสียบุตรชาย แสดงถึงความบกพร่องของดาว ๑ ที่มีความหมายเป็นหลักของชีวิต อองมั่งไร้ผู้มีความสามารถที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้ อองมั่งจึงก่อตั้งราชวงศ์ซินขึ้นมาได้เพียง ๑๖ ปีเท่าอายุการครองราชย์ของตนเอง